ฟังก์ชันที่ใช้ในการเข้ารหัส

4. ฟังก์ชันที่ใช้ในการเข้ารหัส 

        PHP มีฟังก์ชันที่ใช้ในการเข้ารหัสมากมาย  ทั้ง crypt , md5 , crc32

ฟังก์ชัน crypt() ใช้เข้ารหัสข้อความ โดยที่ไม่สามารถถอดรหัสนั้นกลับคืนมาเป็นข้อความเดิมได้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการเข้ารหัสด้วยฟังก์ชันนี้จะเปลี่ยนแปลงไปทุกครั้งเมื่อมีการเรียกใช้งาน

<?php
$mywebsite = "truehits";
for ($i=1;$i<=3;$i++) { echo "ครั้งที่ $i : " .crypt($mywebsite) . "<br>\n";
}
?>
  จากตัวอย่างจะมีการแสดงค่าที่ได้จากคำสั่ง crypt ถึง 3 ครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสด้วย cryptมีผลออกมาเป็นอย่างไร

ฟังก์ชัน md(5)    ใช้เข้ารหัสข้อความด้วยวิธี Message-Digest Algorithm ของ RSA Data Security , Inc. ฟังก์ชันนี้มีแบบแผนในการเข้ารหัสที่แน่นอน โดยผลลัพธ์ เป็นสตริงที่มีความยาว 32 ตัวอักษร

<?php
$mywebsite = "truehits";
echo "นำข้อมูล $mywebsite เข้ารหัส md5 ได้ผลคือ : " .md5($mywebsite)."<br>\n";
?>
ผลที่ได้จากฟังก์ชัน md5 จะมีแบบแผนที่แน่นอน ซึ่งถ้าเราเรียกคำสั่งนี้หลาย ๆ ครั้ง กับข้อมูลชุดเดิม ก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมเสมอ

ฟังก์ชัน crc32() ใช้สร้าง CRCจากข้อความที่กำหนด ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นตัวเลขจำนวน 32 บิต
<?php
$mywebsite = "truehits";
echo " ข้อความ $mywebsite เข้ารหัส CRC ได้ : ".crc32($mywebsite) . "<br>\n";
echo "หรือเขียนในตัวเลขฐานสองได้ดังนี้ : ".decbin(crc32($mywebsite)) . "<br>\n";

echo "หรือเขียนในตัวเลขฐานสองได้ดังนี้ : ".decbin(crc32($mywebsite)) . "<br>\n";
?>

        เรามักใช้ฟังก์ชัน crc32 ในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่รับส่งกัน