ฟังก์ชันเกี่ยวกับสตริง

2.ฟังก์ชันเกี่ยวกับสตริง

ฟังก์ชัน explode() และ implode() 

                ฟังก์ชันทั้งสองนี้ทำงานตรงกันข้ามกัน คือฟังก์ชัน explode() ใช้จัดการแบ่งสตริงออกเป็นสตริงย่อยๆด้วยสัญลักษณ์ที่ใช้เป็นตัวแบ่งซึ่งหลังจากแบ่งออกเป็นสตริงย่อยๆแล้วสตริงย่อยเหล่านั้นจะถูกจัดเก็บไว้ในตัวแปรอาร์เรย์เริ่มจากอาร์เรย์ช่องที่ศูนย์  

2.1 ฟังก์ชัน explode (สัญลักษณ์ที่ใช้แบ่ง, สตริงข้อความ, [จำนวนสตริงย่อยที่ต้องการแบ่งออกมา])

Explode.php

<?
            $str = "one|two|three|four";
            $a = explode('|', $str, 2);
            $b = explode('|', $str);
            for($i=0; $i<count($a); $i++)
            {         
                        echo "$a[$i] ";
            }
            echo "<p>";
            for($j=0; $j<count($b); $j++)
            {         
                        echo "$b[$j] ";
            }
?>

               

2.2 ฟังก์ชัน implode (สัญลักษณ์ที่ใช้แบ่ง, อาร์เรย์) ใช้จัดการนำข้อมูลอาร์เรย์มาประกอบรวมกันเป็นสตริงเพียงชุดเดียว 

 implode.php
<?
            $array = array('lastname', 'email', 'phone');
            $comma_separated = implode(",", $array);
            echo $comma_separated;
?>

2.3 ฟังก์ชัน strcmp() ใช้สำหรับการเปรียบเทียบว่าสตริง 2 ชุด สตริงชุดใดมีค่ามากกว่า น้อยกว่า หรือมีค่าเท่ากัน

            strcmp(string1, string2)

1.      ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าที่มีค่าน้อยกว่า 0 ถ้า string1 น้อยกว่า string2 (string1 มาก่อน string2)

2.      ฟังก์ชันนี้มีจะคืนค่าที่มีค่ามากกว่า 0 ถ้า string1 มากกว่า string2 (string1 มาทีหลัง string2)

3.      ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าที่มีค่าเท่ากับ 0 ถ้า string1 เท่ากับ string2

Strcmp.php

<?
      $str1 = "computer";
      $str2 = "command";
      $result = strcmp($str1,$str2);
      if ($result < 0)
      {
                  echo "computer มีค่าน้อยกว่า command";         
      }
      elseif ($result > 0)
      {
                  echo "computer มีค่ามากกว่า command";
      }
      else
      {
                  echo "computer มีค่าเท่ากับ command";
      }
?>

2.4ฟังก์ชัน strlen() ใช้สำหรับการหาค่าความยาวของสตริง 

*strlen (สตริงที่ต้องการหาค่าความยาว)

 strlen.php

<?
            $str = 'abcdef';
            echo strlen($str)."<br>";
            $str = ' ab cd ';
            echo strlen($str);
?>

2.5 ฟังก์ชัน substr() ใช้สำหรับการดึงบางส่วนของสตริงออกมาจากสตริงหลักโดยใช้วิธีการกำหนดว่าจะเริ่มดึงสตริงออกมาตั้งแต่ส่วนไหนและดึงออกมากี่ตัว 

*substr (สตริงหลัก, จุดเริ่มต้นที่ต้องการดึง, [ความยาวของสตริงที่ต้องการดึงออกมา])

 substr.php 

<?             
            echo substr('abcdef', 1)."<br>";  
            echo substr('abcdef', 1, 3)."<br>";
            echo substr('abcdef', 0, 4)."<br>";
            echo substr('abcdef', 0, 8)."<br>";
            echo substr('abcdef', -1, 1);
?>